...ความอัศจรรย์ในความงามของตัวอักษรเป็นสิ่งที่สัมผัสได้เมื่อได้อ่านหนังสือเล่มนี้ เรื่องราวที่ตรงไปตรงมาแบบไทยๆ ไม่มีความซับซ้อนของเนื้อหา ใช้เพียงแค่ความงามของตัวหนังสือในการเล่าเรื่องราว หนังสือเล่มนี้ทำให้ผมนึกถึงประโยคหนึ่ง ถึงน้ำจะเน่าก็ยังเห็นเงาจันทร์ ในซิทคอม (Situation Comedy) เรื่อง “บางรักซอย 9” เพราะความงามของพระจันทร์ แม้ว่ามันจะทอดเงาผ่านตรงไหนมันก็ยังคงความงามอยู่อย่างนั้นไม่เปลี่ยน เหมือนกับตัวอักษรที่ผ่านการคัดสรรจากปลายปากกาของนักเขียนท่านนี้ เนื้อหาเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมความรักแบบขวัญเรียมที่มีมาเนิ่นนานบางคนอาจจะมองว่ามันเชย แต่ผมกลับไม่ได้รู้สึกเช่นนั้นเลยขณะที่อ่านหนังสือเล่มนี้...
...เงาจันทร์เป็นนักเขียนสตรีคนที่สองที่ได้เข้าชิง SEAWRITE AWARD ประจำปี 2551 เนื้อหาที่ไม่ได้ทำร้ายหรือให้ร้ายสังคมปัจจุบัน แต่เป็นมุมที่อยากให้คนในสังคมสัมผัสผ่านเรื่องสั้นทั้ง 8 เรื่องในหนังสือเล่มนี้ เพื่อบอกให้คนในสังคมเลือกที่จะสนใจและให้ความรักแก่คนอื่น แทนที่จะทำร้ายผู้อื่นด้วยสิ่งที่ตนเองคิดว่าถูกต้อง ความถูกต้องเป็นเรื่องของกาลเวลา เวลามันจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่เราเห็นว่าถูกต้อง อาจจะไม่ใช่ความเป็นจริงเมื่อเวลาผ่านไป ร่องรอยบาดแผลแห่งอดีตเป็นสิ่งที่คนในปัจจุบันควรจะตระหนักถึง เพื่อให้เราเก็บเพียงแค่รอยแห่งความสุขแทนรอยแห่งความโศก…
… พระจันทร์มีทั้งด้านมืด และด้านสว่างเหมือนกับทุกสิ่งในโลก คล้ายกับความรักในหนังสือเล่มนี้ที่เริ่มต้นสดใสงดงาม แล้วจบลงด้วยโศกนาฏกรรม ผมจำได้ว่าหนังสือแนวนี้เรื่องสุดท้ายที่ทำให้ผมน้ำตาซึมคือ “คู่กรรม” ของ ทมยันตี จนกระทั่งได้อ่านรวมเรื่องสั้น “ปรารถนาแห่งแสงจันทร์” ไม่ว่าจะเป็น “ภาระ” “ดอกหางนกยูง” “บุหลันแรม” และ “ด้วยแรงแห่งรัก” เรื่องสั้นแสนเศร้าที่ถ่ายทอดโศกนาฏกรรมของความรักที่จบลงด้วยความตาย หรือแม้ตัวละครจะไม่ตายก็เหมือนตายทั้งเป็นกับการยึดติดกับความรักที่เป็นเหมือนเงาจันทร์ที่จับต้องไม่ได้ แต่คนก็ยังยินดีให้แสงเงานั้นทอดผ่านเข้ามาในชีวิต แม้บางที่มันอาจนำทุกข์โศกเข้ามาด้วยก็ตาม...
...เงาจันทร์เป็นนักเขียนสตรีคนที่สองที่ได้เข้าชิง SEAWRITE AWARD ประจำปี 2551 เนื้อหาที่ไม่ได้ทำร้ายหรือให้ร้ายสังคมปัจจุบัน แต่เป็นมุมที่อยากให้คนในสังคมสัมผัสผ่านเรื่องสั้นทั้ง 8 เรื่องในหนังสือเล่มนี้ เพื่อบอกให้คนในสังคมเลือกที่จะสนใจและให้ความรักแก่คนอื่น แทนที่จะทำร้ายผู้อื่นด้วยสิ่งที่ตนเองคิดว่าถูกต้อง ความถูกต้องเป็นเรื่องของกาลเวลา เวลามันจะเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าแท้จริงแล้วสิ่งที่เราเห็นว่าถูกต้อง อาจจะไม่ใช่ความเป็นจริงเมื่อเวลาผ่านไป ร่องรอยบาดแผลแห่งอดีตเป็นสิ่งที่คนในปัจจุบันควรจะตระหนักถึง เพื่อให้เราเก็บเพียงแค่รอยแห่งความสุขแทนรอยแห่งความโศก…
… พระจันทร์มีทั้งด้านมืด และด้านสว่างเหมือนกับทุกสิ่งในโลก คล้ายกับความรักในหนังสือเล่มนี้ที่เริ่มต้นสดใสงดงาม แล้วจบลงด้วยโศกนาฏกรรม ผมจำได้ว่าหนังสือแนวนี้เรื่องสุดท้ายที่ทำให้ผมน้ำตาซึมคือ “คู่กรรม” ของ ทมยันตี จนกระทั่งได้อ่านรวมเรื่องสั้น “ปรารถนาแห่งแสงจันทร์” ไม่ว่าจะเป็น “ภาระ” “ดอกหางนกยูง” “บุหลันแรม” และ “ด้วยแรงแห่งรัก” เรื่องสั้นแสนเศร้าที่ถ่ายทอดโศกนาฏกรรมของความรักที่จบลงด้วยความตาย หรือแม้ตัวละครจะไม่ตายก็เหมือนตายทั้งเป็นกับการยึดติดกับความรักที่เป็นเหมือนเงาจันทร์ที่จับต้องไม่ได้ แต่คนก็ยังยินดีให้แสงเงานั้นทอดผ่านเข้ามาในชีวิต แม้บางที่มันอาจนำทุกข์โศกเข้ามาด้วยก็ตาม...
… “ภาระ” เป็นเรื่องสั้นเรื่องแรกของหนังสือเล่มนี้ที่เล่าถึงเรื่องราวของนักเขียนหนุ่มที่ล้มเหลวกับการใช้ชีวิต ถึงแม้งานเขียนของเขามักจะถูกมองข้ามโดยสังคมแต่เขาก็ยังยินดีที่จะเรียงร้อยเรื่องราวเหล่านั้นแต่งเป็นหนังสือให้คนอ่าน งานทุกชิ้นของเขาจึงเป็นเหมือนกล่องบรรทุกเรื่องเล่าที่เขาแบกเอาไว้เพียงลำพังจนกระทั่งวินาทีสุดท้ายของชีวิต...
... “ดอกหางนกยูง” เป็นเรื่องราวรักสามเศร้าของครูหนุ่ม ครูสาวและเด็กสาวข้างบ้าน คุณครูหนุ่มใช้อารมณ์รักของเขาฆ่าผู้หญิงทั้งสองคน ส่วนตัวเขาใช้ชีวิตที่เหลือด้วยความทุกระทมเมื่อนึกถึงหยดเลือดที่กระเซ็นเปื้อนกลีบดอกหางนกยูง...
... “บุหลันแรม” ถ่ายทอดเรื่องราวความรักของหญิงอัปลักษณ์ที่มีต่อครูใหญ่รูปงาม จนกระทั่งเธอมองข้ามรักแท้จากชายที่คู่ควรกับเธอ ชายหนุ่มที่โง่เขลาในความรัก ที่ไม่เคยรู้จักว่าความรักนั้นเหมือนเงา แม้กระทั่งความตายก็ไม่อาจฉุดรั้งให้เธอหันย้อนกลับมามองเขาแม้เพียงแต่หายตา หรือเพราะว่าเธอเพียงอยากจะลืมเลือนความทุกข์ระทมจากรักที่เธอมอบให้กับชายอีกคนที่เกลียดชังผู้หญิงอัปลักษณ์เช่นเธอ...
... “ด้วยแรงแห่งรัก” บทสรุปของพลังแห่งความรักที่จะนำพาความโศกให้หายไปหากเราไม่ยึดติดกับมัน แม้ว่าแรงแห่งรักจะนำมาซึ่งการสูญเสียแต่เราจะได้สิ่งที่เรียกว่ารักแท้กลับมาหากเราเลือกที่จะให้อภัย เพราะความรักมันไม่เคยทำร้ายใคร แต่การยึดติดกับมันต่างหากที่ทำให้เกิดความทุกและโศกนาฏกรรม...
... “ปรารถนาแห่งแสงจันทร์” เป็นหนังสือที่รวมเรื่องราวของความรักในรูปแบบต่างๆ “เพื่อให้คนที่เคยผ่านความเจ็บปวดได้เห็นใจและเข้าใจมนุษย์รอบข้างตนเองมากขึ้น เราจักได้เลิกทำร้ายกันรวมทั้งเลิกทำร้ายตัวเอง กาลเวลาจะได้บันทึกความสุขของมนุษย์แทนรอยโศกจนชั่วนิรันดร์” เหมือนกับที่เงาจันทร์กล่าวไว้ในปกหลังของหนังสือเล่มนี้...
... สำหรับผมบอกได้เพียงว่าตอนนี้ผมกำลังหลง “เงาจันทร์” หนังสือนักเขียนท่านนี้คงเป็นหนึ่งใน collection ที่ผมจะเก็บไว้อ่านเมื่อนึกถึง "คืนบุหลันเลือนแรมลา" เพราะหัวใจข้าจะได้ระลึกถึงความงามของแสงจันทร์...
-อั๋นน้อย-
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น