เกี่ยวกับฉัน

รูปภาพของฉัน
Work like you don't need the money.Dance like no one is watching.Sing like no one is listening.Love like you've never been hurt.And live life every day as if it were your last.

วันพฤหัสบดีที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2554

"เคหวัตถุ: ดอกไม้ ประตู แจกัน ดินทราย ต้นไม้ใหญ่ แก้วน้ำ จานชาม บันได โคมไฟ ที่สวยงาม..."



...ความทรงจำที่คนมีต่อสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆมักจะผุดขึ้นมาเมื่อเราได้หยิบจับหรือพบเห็นมันโดยบังเอิญ บางคนอยากจะลืม บางคนอมยิ้มเพราะช่วงเวลาแห่งความสุขมันผุดขึ้นมาในหัว ขณะที่อ่านเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งของ อนุสรณ์ ติปยานนท์ ในหนังสือรวมเรื่องสั้น "เคหวัตถุ" ทำให้ผมนึกถึงหนังเรื่องหนึ่งที่พระเอกพยายามลบความทรงจำที่มีต่อนางเอก เนื่องจากก่อนหน้านั้นเธอก็ลบความทรงจำที่มีต่อเขาทิ้งไปอย่างไม่ไยดี แต่ในระหว่างการทำงานของเครื่องลบความจำ ความทรงจำดีๆที่เขามีต่อเธอมันกลับผุดขึ้นมาในหัว เขาไม่อยากให้ความสุขเหล่านั้นหายไป เขาจึงพยายามที่จะเก็บซ่อนสิ่งเหล่านั้นไว้ในซอกหลืบของความทรงจำ แม้ว่าความพยายามของเขาจะไร้ผล รุ่งเช้าเขาตื่นขึ้นมาพร้อมกับความว่างเปล่า แต่ว่าเมื่อวันหนึ่งเขารู้ว่าความจริงแล้วความทรงจำเหล่านั้นมันจะยังคงอยู่เหมือนอนุภาคของแสงที่เล็กมากแต่เรืองรองอยู่ในความรู้สึก หลายๆคนอาจจะเคยดูแล้วกับหนังที่ผมคิดว่า Jim Carrey เล่นได้ดีที่สุด
"Eternal Sunshine of the Spotless Mind"...

 

อนุสรณ์ ติปยานนท์ เรียนจบด้านสถาปัตยกรรมจาก University College London และออกแบบอุตสาหกรรมจาก Domus Academy Italy แล้วมาเป็นอาจารย์สอนมหาวิทยาลัย ก่อนที่จะหันหลังให้แวดวงการศึกษาเพราะเขาเชื่อว่าการให้คะแนนไม่สามารถวัดคนได้ จากบทสัมภาษณ์ในคอลัมน์ คุยนอกรอบ ของสำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น เขาเล่าว่าเขาอยากเขียนหนังสือสักเล่มเพื่ออุทิศให้กับเพื่อนที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ 9/11 ที่ New York และไม่เสียใจที่ตัดสินใจลาออกจากงานประจำเพื่อทำงานอิสระ หลักการเขียนหนังสือของเขาคือ
พูดให้น้อย เขียนให้มากและหัดโยนสิ่งที่เขียนทิ้งไปอย่างสม่ำเสมอผมครุ่นคิดแต่ก็ยังไม่เข้าใจประโยคหลัง พูดให้น้อย เขียนให้มากน่ะทำได้ แต่จะให้โยนสิ่งที่เขียนทิ้งไปบางที่มันก็ทำยากแม้ว่าใครๆ บอกอยู่เสมอๆ ว่าให้หัดเขียนอะไรที่มันสนุกๆ บ้าง ก็คนมันเขียนไม่เป็นจะให้โยนสิ่งที่ตัวเองอยากเขียนทิ้งไป แล้วหัดเขียนงานรูปแบบใหม่มันยาก คงมีสักวันหนึ่งที่ผมจะทำได้อย่างนักเขียนท่านนี้ แต่ขอเวลาหน่อย...



...สิ่งของเครื่องใช้ในบ้านล้วนมีที่มา อนุสรณ์ ติปยานนท์ เล่าเรื่องผ่าน ตู้เย็น ร่ม ปิ่นโต เตียง เรื่องราวความสัมพันธ์ของสิ่งของกับผู้เป็นเจ้าของ เครื่องเรือนต่างๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของบ้านของครอบครัว  เรื่องสั้นอีก 4 เรื่อง กะโหลก นก ยาย น้ำตาล เป็นมุมมองของนักเขียนต่อ กฎหมาย จริยธรรม สภาพสังคม
กะโหลก ที่ว่าด้วยเรื่องของกฎหมายกับจริยธรรมสิ่งไหนกันแน่ที่จะทำให้มนุษย์เป็นคนดี แม้กฎหมายจะมีอำนาจลงโทษคนเลว แต่มันไม่มีทางทำให้คนๆ นั้นเป็นคนดีได้ นก เรื่องของคนๆ หนึ่งที่ชอบกินแมลงจึงสมมุติตัวเองเป็นนก ยาย ความคิดคำนึงของผู้ชายคนหนึ่งที่มีต่อยายของเขาในวันที่เขาต้องไปงานศพของท่าน น้ำตาล เป็นเรื่องราวความรักหวานอมขมขื่นของผู้ชายคนหนึ่งที่ชอบกินกาแฟจากถ้วยของคนอื่น เขาสัมผัสความรู้สึกของคนรอบข้างผ่านการลิ้มรสชาติกาแฟในถ้วยของคนๆ นั้น บางถ้วยขมขื่น บางถ้วยจืดชืด บางถ้วยเปล่าปร่า แม้ว่าทุกถ้วยจะเติมน้ำตาลลงไปก็ตาม...




... รวมเรื่องสั้นทั้ง 8 เรื่องน่าอ่านหมดทุกเรื่อง เป็นงานเขียนที่แปลกใหม่สำหรับผมที่ต้องศึกษาเพิ่มเติมแฝงแง่คิดมากมาย ท้าทายจริงๆ สำหรับศาสตร์แห่งการตัดสินคุณค่า (
Axiology) งานเขียนชิ้นนี้ครบถ้วนทั้ง ความจริง ความดี และความงาม โดยเฉพาะ กะโหลก ประโยคสุดท้ายที่ อนุสรณ์ ติปยานนท์ บอกกับคนอ่านว่าแท้จริงแล้วมนุษย์มีแต่ความว่างเปล่า สิ่งต่างๆ ที่เกิดจากสติปัญญาของคนนั้น วันหนึ่งมันจะเลือนหายไปกับกาลเวลา ไม่มีสิ่งใดเป็นนิรันดร์...


...เหมือนกับกะโหลกซึ่งเป็นที่เก็บเรื่องราวมากมายไว้ภายใน แต่เมื่อกายดับสูญไปมันเหลือประโยชน์อะไรนอกจากการเป็นปุ๋ยให้กับวัชพืช...

“… ในเย็นวันหนึ่ง ผมจึงขุดหลุมฝังกะโหลกทั้งหมดลงในหลุมหลุมเดียว แล้วซื้อเมล็ดดอกไม้จำนวนมากมาใส่ลงในนั้น แต่เมื่อกาลเวลาผ่านไป ไม่มีอะไรงอกงามออกมาเลย นอกจากวัชพืชสองสามชนิดเท่านั้น ...


- เรื่องสั้น กะโหลก อนุสรณ์ ติปยานนท์ -

-อั๋นน้อย-

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น